แม่ย่านางเทพผู้ปกปักคุ้มครองการเดินทางในแขนงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น รถ เรือ หรือแม้แต่เครื่องบิน สิ่งต่างๆ เหล่านี้ล้วนแล้วแต่มีแม่ย่านางคอยปกปักพิทักษ์รักษาอยู่ด้วยกันทั้งสิ้น ซึ่งหากจะกล่าวไปแล้วนั้นแม่ย่านางค่อนข้างจะผูกพันธ์กับวิถีชีวิตของคนไทยไม่ใช่น้อยเลยล่ะครับ ว่าแล้วเราก็มาติดตามตำนานของแม่ย่านางและวิธีบูชาเพื่อความเป็นสิริมงคลกันเลยดีกว่า
ตำนานแม่ย่านาง
สำหรับเรื่องราวของแม่ย่านางนั้นเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในตำนานที่ค่อนข้างจะเก่าแก่ไม่ใช่น้อยเลยล่ะครับ ซึ่งแต่ละตำนานก็จะแตกต่างกันไปตามแบบฉบับความเชื่อของผู้คนที่นับถือในองค์แม่ย่านางผู้ปกปักคุ้มครองนักเดินทาง แต่สิ่งหนึ่งที่มีร่วมกันในทุกๆ ตำนานก็คือความผูกพันธ์ระหว่างแม่ย่านางกับยานพาหนะต่างๆ โดยเฉพาะเรือนั่นเองครับ
ในตำนานนั้นได้กล่าวเอาไว้โดยมีใจความว่า เมื่อนานมาแล้วได้มีหญิงสาวคนหนึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านการเดินเรือเป็นอย่างมาก ทุกๆ การเดินทางของเธอนั้นเรียกได้ว่าไม่เคยมีครั้งไหนที่ผู้คนบนเรือจะต้องเกิดอันตรายเลยแม้แต่ครั้งเดียว แต่แล้วจู่ๆ วันหนึ่งเรื่องราวที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นจนได้ โดยในขณะที่เธอกำลังเดินทางอยู่นั้นพลันก็เกิดพายุขึ้นมา สร้างความตกตะลึงให้กับตัวเธอและลูกเรือเป็นอย่างมาก ด้วยความที่เธอเป็นคนมีจิตใจดีงามจึงได้ทูลขอกับพระอินทร์ให้ไว้ชีวิตลูกเรือของเธอด้วย
แต่มีหรือที่พระอินทร์จะยอมให้ขอกันได้ง่ายๆ เพราะสำหรับพระอินทร์แล้วนั้นทุกๆ คำขอย่อมต้องมีการแลกเปลี่ยนเป็นสิ่งตอบแทนเสมอ โดยในครั้งนี้ก็เช่นเดียวกันพระอินทร์ได้ตั้งข้อเสนอขึ้นมาว่าถ้าหากอยากให้ทุกคนรอดล่ะก็หญิงสาวผู้นี้จะต้องยอมอยู่กับเรือไปตลอดกาล ด้วยความที่หญิงสาวคนนี้เป็นคนมีจิตใจดีเธอจึงได้ตัดสินใจที่จะรับข้อเสนอดังกล่าวโดยทันทีเพื่อที่จะรักษาชีวิตของลูกเรือเอาไว้ให้พวกเขาสามารถกลับบ้านได้อย่างปลอดภัย เมื่อทั้งสองฝ่ายตกลงกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วพลันพายุก็สงบเงียบราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ทุกคนต่างก็งุนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าว่าเป็นเพราะสิ่งใดกันแน่ ลูกเรือทุกคนต่างก็มองไปที่ตัวของกัปตันหญิงของพวกเขาเพื่อหาคำตอบ อนิจจาที่เธอนั้นได้หายตัวไปเสียแล้วเหลือแต่เสื้อผ้าวางไว้ พร้อมด้วยคำสั่งสุดท้ายให้ลูกเรือเดินทางกลับไปยังบ้านเกิดของตนเอง อย่างไรก็ตามลูกเรือหลายๆ คนต่างก็อดสงสัยไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับกัปตันหญิงของพวกเขากันแน่ จนกระทั่งมีกะลาสีเรือคนหนึ่งซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดได้เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ทุกๆ คนฟัง จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ชื่อของกัปตันหญิงคนนี้โด่งดังไปทั่วทุกแห่งหนและนับแต่นั้นเป็นต้นมากัปตันหญิงผู้นี้ก็ได้รับการนับถือในฐานะของแม่ย่านางเทพผู้คุ้มครองคนเดินทางนับแต่นั้นสืบไป
ซึ่งนี่เป็นตำนานที่ค่อนข้างจะสมัยใหม่ขึ้นมาหน่อยเกี่ยวกับความเชื่อในเรื่องของแม่ย่านางนอกจากนี้ยังมีตำนานความเชื่ออื่นๆ อีกว่าแม่ย่านางนั้นก่อนที่จะกลายมาเป็นเทพได้เคยประกอบคุณงามความดีด้วยการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ให้พ้นภัยจากสัตว์ร้ายในท้องทะเลที่คอยโจมตีเรือของผู้คนที่สัญจรผ่านไปมา จนในที่สุดเมื่อแม่ย่านางได้ปราบสัตว์ร้ายเหล่านี้ลงได้ท่านก็ได้กลายเป็นเทพผู้พิทักษ์ไปในที่สุดนั่นเอง ซึ่งในส่วนนี้นั้นถือได้ว่าเป็นตำนานความเชื่อที่ค่อนข้างจะเก่าแก่ไม่ใช่น้อยเลยล่ะครับสำหรับแม่ย่านาง ถือได้ว่าเป็นเกร็ดสนุกๆ ที่ผู้เขียนตั้งใจนำมามอบให้คนอ่านได้อ่านกันเพื่อความเพลิดเพลินนะครับ
วิธีการบูชาแม่ย่านาง
ดังได้ที่ผมได้กล่าวไปแล้วว่าแม่ย่านางนั้นถือเป็นเทพที่มีความผูกพันธ์และเกี่ยวข้องกับยานพาหนะไม่ใช่น้อยโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเรือ ซึ่งเมื่อผมกล่าวมาถึงตรงจุดนี้แล้วหลายๆ คนคงจะเกิดความสงสัยเป็นแน่แท้ว่า อ้าว ! ในเมื่อตำนานมันเกี่ยวข้องกับเรือแล้วไหงแม่ย่านางถึงได้ขึ้นมาอยู่บนรถ และ บนเครื่องบินได้ ซึ่งตรงจุดนี้นั้นผมคงต้องบอกว่าเมื่อกาลเวลาผ่านไปมนุษย์ไม่ได้เดินทางด้วยเรือแต่เพียงลำพังอีกแล้ว แต่มันยังมีการเดินทางด้วยวิธีการอื่นๆ อีกมากมายไม่ว่าจะเป็น รถ หรือ เครื่องบิน ด้วยเหตุนี้เองตำนานดังกล่าวจึงได้พัฒนาความเชื่อขึ้นและส่งผลให้แม่ย่านางกลายมาเป็นเทพผู้คุ้มครองยานพาหนะต่างๆ ไปในที่สุด
สำหรับวิธีการบูชาแม่ย่านางนั้นให้ทำได้ง่ายๆ ตามนี้เลยครับ
1.ผลไม้ 5 อย่าง กล้วยน้ำหว้าสุก 2 หวี และผลไม้อื่นๆ
2.ข้าว 1 ถ้วย
3.น้ำ 1 แก้ว
4.หมาก พลู ยาเส้น
5.ยาสูบ
6.ธูป 9 ดอก
คาถาบูชา
ถึงตรงนี้ให้ผู้บูชาพูดในสิ่งที่ดีๆ เช่น มีโชค ร่ำรวย ทำมาค้าขายให้เงินไหลเทมา แล้วรอรอประมาณ 20 นาที จากนั้นจึงจุดยาสูบ 3 มวนให้เจ้าที่ด้วย และรอประมาณ 3 นาที แล้วค่อยกล่าวคำลาให้ว่าตามดังนี้
เพียงเท่านี้โชคลาภและความแคล้วคลาดปลอดภัยก็จะบังเกิดแก่ผู้ที่บูชาแล้วล่ะครับ
จากที่ผมได้กล่าวมานี้นี่เป็นขั้นตอนการบูชาองค์แม่ย่านางเพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อการเดินทางทุกๆ ครั้งไม่ว่าจะเป็นใกล้หรือไกลขอเพียงคุณมีแม่ย่านางค่อยรักษาเท่านี้ก็เบาใจไปได้ในระดับหนึ่งแล้วล่ะครับ
ที่มา https://daily.rabbit.co.th
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น